เปิดงบพัฒนาบุคคลากรปี 56- 40 ลบ.,หารือปัญหา Must carry , ความพร้อมการออนแอร์ทีวีดิจิตอล

จับตาวาระ กสท. : กสท. เปิดงบพัฒนาบุคคลากรปี 56 ในและนอก 40 ล้าน และ สนง. ชงงบเสนอโครงการปีนี้ — เตรียมเสนอวาระจรหารือปัญหา Must carry และความพร้อมการออนแอร์ทีวีดิจิตอล – อนุผู้บริโภคฯ เตรียมจับมือ อย.มอนิเตอร์วิทยุหลังเรื่องร้องเรียนขายน้ำผลไม้

ในการประชุมบอร์ด กสท.จันทร์นี้ (24 ก.พ.57) กสทช. สุภิญญาฯ ชวนจับตาวาระการเข้าร่วมประชุม อบรม สัมมนาในต่างประเทศ ที่ใช้งบประมาณทั้งสิ้นกว่า 40 ล้านบาท เพื่อพัฒนาบุคลากรในสำนักงาน กสทช. ในปี 2556 และมีการเสนอวาระจัดอบรมเพื่อพัฒนาบุคลากรในปี 2557 พร้อมเสนอวาระจรหารือปัญหา Must carry และความพร้อมในการออกอากาศทีวีดิจิตอล 1 เมษายนนี้ นอกจากนี้อนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค จับมือกับ อย.วางระบบมอนิเตอร์วิทยุร่วมกันหลังพบเรื่องร้องเรียนโฆษณาเกินจริงเพียบ

นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสทช. เปิดเผยว่า วันจันทร์ที่ 24 ก.พ.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ซึ่งสำนักงานฯ ได้สรุปรายงานผลการจัดอบรมของสำนักงาน กสทช. ที่จัดขึ้นตลอดปี 2556 ซึ่งมีทั้งหลักสูตรที่จัดอบรมภายในประเทศ หลักสูตรที่จัดอบรมในต่างประเทศ และหลักสูตรที่ร่วมอบรมกับหน่วยงานภายนอก โดยมีการรายงานผลที่ได้รับจากการจัดอบรม รวมทั้งประเมินข้อดี ข้อเสีย รวมถึงข้อเสนอแนะสำหรับการจัดอบรมในอนาคต ให้บอร์ดทราบ และมีวาระที่บอร์ดต้องพิจารณาการร่วมประชุม อบรม สัมมนาในต่างประเทศและการจัดอบรมเพื่อพัฒนาบุคลากรในปี 2557 นี้ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ ประสบการณ์ และเท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และแวดวงอุตสาหกรรมสื่อ โดยในแต่ละปีองค์กรระหว่างประเทศที่ กสทช.เป็นสมาชิก จะมีจัดอบรมและสัมมนาการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงานของแต่ละประเทศ การจัดแสดงผลงาน การประชุมประจำปี ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก เพื่อให้รับรู้ถึงข้อมูลที่ทันสมัย ซึ่งสำนักงาน กสทช.ได้รวบรวมขึ้นมา เพื่อเสนอให้บอร์ดพิจารณา

ทั้งนี้การจัดอบรม สัมมนา ต่างๆ ของสำนักงาน กสทช. กำลังเป็นที่จับตาของสาธารณะโดยเฉพาะการจัดอบรมในต่างประเทศ ว่าได้รับความคุ้มค่าในการใช้งบประมาณ และทำให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนางานของ สำนักงาน กสทช. และการปฏิบัติงานของพนักงานได้มากน้อยเพียงใด

“ โดยส่วนตัวคิดว่าการจัดอบรมเพื่อพัฒนาบุคลากรพนักงาน กสทช. เป็นสิ่งที่ดี เพราะทุกวันนี้เทคโนโลยี อุตสาหกรรมสื่อ หรือสภาพสังคมเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วมาก พนักงาน กสทช. จึงต้องติดตาม และทันกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น แต่ทั้งในระดับพนักงานและผู้บริหารควรมีความระมัดระวัง ในการใช้งบประมาณให้คุ้มค่าและเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ รวมถึงบอร์ด กสทช.ควรเปิดเผยรายละเอียดการใช้งบรายบุคคล เพื่อความโปร่งใส และตรวจสอบได้” นางสาวสุภิญญา กล่าว

สำหรับการประชุมในวันพรุ่งนี้ยังมีวาระการพิจารณาเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคให้ตรวจสอบการโฆษณาผลิตภัณฑ์อาหารที่อวดอ้างสรรพคุณเกินจริงว่าสามารถรักษาโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูงได้ สลับกับการเปิดเพลงทางสถานีวิทยุกระจายเสียง ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นสถานีวิทยุที่ไม่ได้รับสิทธิ์ทดลองประกอบกิจการ ที่ผ่านมาพบสถานีวิทยุกระจายเสียงหลายแห่งที่ดำเนินการเช่นนี้ แต่ยังไม่มีผู้ร้องเรียนเข้ามา ดังนั้นในวันอังคารที่จะถึงนี้ (25 ก.พ.) กสทช. กับ อย.จะหารือกันเพื่อจับมือกันหาวิธีการมอนิเตอร์การโฆษณาอาหารและยาที่อวดอ้างสรรพคุณเกินจริง ทั้งในดาวเทียม เคเบิ้ลทีวี และสถานีวิทยุกระจายเสียง ผลเป็นอย่างไรติดตามได้ภายในสัปดาห์นี้

นอกจากนี้แม้ไม่มีวาระอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับทีวีดิจิตอล แต่ กสทช.สุภิญญาฯ เตรียมหารือกับบอร์ด เนื่องจากในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาได้พูดคุยกับผู้ประกอบการหลายราย ซึ่งมีความห่วงกังวลกับประเด็น Must Carry ทีวีดิจิตอล 24 ช่อง ไม่ว่าจะเป็นเคเบิ้ลทีวีท้องถิ่น ที่มีปัญหาเรื่องศักยภาพทางเทคนิค หรือแม้แต่ผู้ประกอบการรายใหญ่บางรายก็มีข้อจำกัดทางเทคนิคในการที่จะทำตามประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป ( Must Carry) จึงจะเสนอบอร์ด กสท. เพื่อหารือถึงความชัดเจนในข้อปฏิบัติที่จะไม่ก่อให้เกิดปัญหาใดๆ ที่อาจตามมา หรือทำไม่ได้จริงตามประกาศดังกล่าว รวมทั้งตรวจสอบความพร้อมด้านอื่นๆ เช่น ผู้ให้บริการโครงข่ายมีความพร้อมที่จะให้บริการทันวันที่ 1 เมษายนนี้หรือไม่ รวมถึงติดตามสอบถามความคืบหน้าการรณรงค์เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับทีวีดิจิตอลกับประชาชนด้วย

———————————–